ลองเลย!!

LAZADA 5.5

ช้อปสนุกทุกองศา!

5 -7 พฤษภาคม 2567

ลดแรงกว่า 90%* ช้อปเลย »

ระวัง! ยาฆ่าแมลง สารพิษตกค้าง ในใบกะเพรา อันตราย..

สถาบันอาหาร สุ่มเก็บตัวอย่างใบกะเพรา ตรวจพบยาฆ่าแมลง สารพิษตกค้าง ในใบกะเพรา พบมียาฆ่าแมลงกลุ่ม ออร์กาโนฟอสเฟต ชนิดคลอร์พิริฟอส–เอทิล และกลุ่มคาร์บาเมต ชนิดคาร์โบฟูราน ควรล้างน้ำให้สะอาดทุกครั้งก่อนนำไปรับประทาน

ใบกะเพรา สมุนไพรไทยอันดับต้นๆ ที่แทบไม่มีใครไม่รู้จัก จนมีการแซวล้อกันว่า อาหารสิ้นคือก็คือ ผัดกะเพรา นั่นเอง แต่ทราบไหมว่า ใบกะเพราที่ซื้อขายในตลาด อาจมียาฆ่าแมลง สารพิษตกค้าง ในใบกะเพรา ซึ่งอันตรายมาก จึงควรล้างน้ำให้สะอาดก่อนทุกครั้ง นำมารับประทานนะครับ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ เปลี่ยนจากการใช้ยาฆ่าแมลง มาใช้ น้ำส้มควันไม้ กันเถอะ ปลอดภัยกว่ากันเยอะ

ระวัง! ยาฆ่าแมลง สารพิษตกค้าง ในใบกะเพรา อันตราย

ใบกะเพรา 100 กรัม มีเบต้าแคโรทีนสูงถึง 7,857 ไมโครกรัม ที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเสื่อมของสายตาก่อนวัยอันควร มีเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มีวิตามินสูง โดยกะเพรา 100 กรัม มีวิตามินซี 22 มิลลิกรัม นอกจากมีสารอาหารที่หลากหลายแล้ว ยังมีสรรพคุณในการรักษาโรค คนโบราณมักนำใบกะเพรามาต้มจิบเป็นน้ำชาบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมได้ดี จึงนิยมนำมาประกอบอาหาร เพราะใบกะเพรามีกลิ่นฉุนสามารถดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี

กะเพราที่เราเห็นกันทั่วไปมี 2 ชนิดคือ กะเพราขาวและกะเพราแดง เรียกตามสีของก้านใบและก้านดอก สมัยก่อนเรามักจะปลูกกะเพราเป็นสมุนไพรที่ใช้ในบ้าน อยากนำมาประกอบอาหารเมื่อใดก็สามารถเด็ดใช้ได้ทันที แต่ปัจจุบันวิถีการดำเนินชีวิตเปลี่ยนไป พื้นที่รอบบ้านที่ใช้ปลูกพืชผักสวนครัวของคนในเมืองมีน้อยลง ก็ต้องหาซื้อตามตลาดนัดและซุปเปอร์มาร์เกต แต่ก็ต้องระวังเรื่องของยาฆ่าแมลงที่อาจตกค้าง ได้แก่ กลุ่มออร์กาโนคลอรีน, กลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต, กลุ่มคาร์บาเมต และกลุ่มไพรีทรัม และสารสังเคราะห์ไพรีทรอยด์

วันนี้สถาบันอาหารได้สุ่มเก็บตัวอย่างใบกะเพราะ 5 ตัวอย่าง จากย่านการค้าในเขตกรุงเทพฯและจังหวัดนนทบุรี เพื่อนำมาวิเคราะห์หายาฆ่าแมลงตกค้างทั้ง 4 กลุ่ม

ผลปรากฏว่า พบใบกะเพรา 2 ตัวอย่าง มียาฆ่าแมลงกลุ่ม ออร์กาโนฟอสเฟต ชนิดคลอร์พิริฟอส–เอทิล และกลุ่มคาร์บาเมต ชนิดคาร์โบฟูราน ตกค้าง

เห็นอย่างนี้แล้ว ขอแนะว่าก่อนทานทุกครั้งควรล้างน้ำให้สะอาด โดยล้างให้น้ำไหลผ่าน หรือใช้เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 4 ลิตร แช่นาน 10 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด สามารถลดสารพิษลงได้ 27-38% หลังจากนั้นค่อยนำไปปรุงอาหาร เพื่อความปลอดภัย.

ที่มา ไทยรัฐออนไลน์

รายละเอียดเพิ่มเติม